วันอาทิตย์ที่ 2 กันยายน พ.ศ. 2555
คปภ.ชี้ปีนี้น้ำไม่ท่วมเบี้ยลดอีก
สำนักงานคณะกรรมการกำกับและ ส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.) สรุปตัวเลขการรับประกันภัยของ กองทุนส่งเสริมการประกันภัยระหว่างวันที่ 28 มีนาคม-10 สิงหาคม 2555 มีจำนวนกรมธรรม์ทั้งสิ้น 92,930 ฉบับ ทุนประกัน ภัยพิบัติ 9,462 ล้านบาท เบี้ยประกันภัย 65 ล้านบาท คปภ.คาดว่าถึงสิ้นปีจำนวนกรมธรรม์ประกันภัยพิบัติจะเพิ่มเป็น 720,367 ฉบับ ทุนประกัน 329,943 ล้านบาท
“ตัวเลขนี้มาจากฐานข้อมูลของบริษัท รับประกันภัยต่อ จำกัด (มหาชน) หรือไทยรี ประมาณการจากจำนวนกรมธรรม์ทั้งหมดที่มีอยู่ในระบบจะครบอายุเท่า ไหร่จะมีผู้มาทำประกันต่ออีกเท่าไหร่ ไม่คาดว่าจะมาทั้งหมดจำนวนจริงอาจจะต่ำกว่านี้ก็ได้” นายประเวช องอาจสิทธิกุล เลขาธิการคปภ.กล่าว
และเสริมว่า กองทุนฯเริ่มเข้าสู่เฟส สองเป็นเรื่องของการทำ ประกันภัยต่อ ต่าง ประเทศอยู่ระหว่างหาบริษัทที่ปรึกษาหรือ บริษัทนายหน้าด้านการประกันภัยต่อ มาให้คำปรึกษาและข้อเสนอแนะแก่กองทุนฯ ในการจัดแผนการประกันภัยต่อที่เหมาะสม พร้อมทั้งติดต่อบริษัทประกันภัยต่อ (รีอินชัวเรอส์) ในต่างประเทศเพื่อเสนอเบี้ย ประกันและเงื่อนไขที่เหมาะสมแก่กองทุนฯ
ยิ่งกว่านั้นจะเชิญบริษัทรับประกันภัยต่อ อาทิ จากอังกฤษ ญี่ปุ่นมาดูความคืบหน้าแผนการบริหารจัดการน้ำของรัฐบาลและนิคมอุตสาหกรรมต่างๆ เพื่อให้ ผู้รับประกันต่อเกิดความมั่นใจจะได้เข้ามา แข่งขันเสนออัตราเบี้ยประกัน เชื่อว่าน่าจะเชิญมาได้เพราะสามารถแสดงผลเป็นรูปธรรมให้กับผู้รับประกันต่อเห็นภาพได้ทั้งประชาชนที่เคยอพยพออกจากกรุงเทพฯ ช่วงน้ำท่วมกลับเข้ามาแล้ว นิคมฯ ต่างๆ เปิดธุรกิจ ขณะที่เขื่อนป้องกัน น้ำเริ่มเป็นรูปเป็นร่าง
“เป็นช่วงที่กรมธรรม์เก่าทยอยหมด อายุ เราคาดว่าจากนี้ไปถึงสิ้นปีจะเห็นการ ทำประกันภัยพิบัติ แต่ยังไม่รู้จะมาทำ ประกันเท่าไหร่ ดังนั้นกองทุนฯต้องพร้อมรับเสมอ การซื้อประกันภัยต่อจะทยอยซื้อ ตามความเหมาะสมเพื่อจะได้ไม่ต้องไปเสีย เบี้ยทีเดียวส่วนจะซื้อเท่าไหร่ขึ้นอยู่กับคำแนะนำของประกันต่อเช่นทุนประกันแสนล้านอาจจะซื้อประกันต่อหมื่นล้านบาทก่อน ก็ได้ ที่ไม่ทำก่อนหน้านี้เพราะถ้าซื้อไว้แล้วไม่ได้ใช้ความคุ้มครองจะเสียค่าเบี้ยไปเปล่าๆ ค่าเบี้ยประกันแพงที่สุดคือตอนนี้โอกาสต่อรองน่าจะดีกว่า”
สำหรับบริษัทนายหน้าประกันภัยต่อที่กำลังสรรหาอยู่ เลขาธิการคปภ.กล่าว ว่า เป็นบริษัทสากลขนาดใหญ่ซึ่งในโลกมีประมาณ 5 บริษัท คาดว่าประมาณต้นเดือนกันยายนจะได้รายชื่อบริษัทนายหน้า พร้อมกับนำเสนอคณะกรรมการกองทุนฯคัดเลือกและแต่งตั้งเพื่อเสนอแผนการทำประกันต่อ
“ตอนนี้ผู้รับประกันต่อ มั่นใจตลาดไทยมากขึ้นเห็นได้จากค่าเบี้ยที่ลดลงในพื้นที่ที่ไม่มีน้ำท่วม อย่างเงื่อนไขของกองทุนฯที่กำหนดว่าถ้าบริษัทประกันภัย ขายประกันภัยพิบัติโดยให้อัตราเบี้ยต่ำกว่า กองทุนฯตั้งแต่ 20% ขึ้นไปไม่ต้องส่งงานเข้ากองทุนฯอัตราที่ว่ามาจากทางผู้รับประกันต่อเสนอมาสะท้อนว่าผู้รับประกันต่อเข้ามาแล้ว”
“ประเวช” กล่าวว่า ถ้าปีนี้น้ำไม่ท่วม เบี้ยประกันจะลดลงอีก ผู้รับประกันต่อจะ เข้ามามากขึ้นและถ้าปีหน้าไม่ท่วมอีกจะยิ่ง ลดลงอีกแต่คงไม่ต่ำเหมือนช่วงก่อนน้ำท่วมที่คิดกัน 0.01% จ่ายสินไหมน้ำท่วมแล้ว 65%
สำหรับความคืบหน้าในการจ่ายค่าสินไหมทดแทนผู้ประสบภัยน้ำท่วม นายตนุภัทร รัตนพูลชัย ผู้ช่วยเลขาธิการสาย กำกับผลิตภัณฑ์ประกันภัย สำนักงานคปภ. กล่าวว่า ณ วันที่ 15 สิงหาคม 2555 บริษัทประกันภัยจ่ายค่าสินไหมทดแทนไปแล้ว 2.94 แสนล้านบาทหรือคิดเป็น 65.17% ของยอดค่าเสียหายที่มีการเรียกร้องเข้ามา 4.5 แสนล้านบาท คิดเป็นจำนวนราย 81,638 ราย หรือ 91.08% ของจำนวนราย ทั้งหมด 89,632 ราย ที่เรียกร้องค่าสินไหม ทดแทนเข้ามาสะท้อนภาพประชาชนและผู้เอาประกันภัยส่วนใหญ่ได้รับการชดใช้แล้วต่ำกว่าเป้าหมาย70% เล็กน้อย
ส่วนที่ยังไม่ได้รับการชดใช้อีก 7,995 ราย ค่าสินไหมทดแทน 1.57 แสนล้านบาทหรือคิดเป็น 34.83% อยู่ระหว่างดำเนินการส่วนใหญ่เป็นลูกค้ารายใหญ่โรงงานอุตสาหกรรมต่างๆ โดยค่าสินไหมส่วนนี้ยังไม่นิ่งเป็นตัวเลขความเสียหายที่บริษัทประกันภัยตั้งสำรองจ่ายไว้ อีกทั้งยังไม่รวม ความจากการประกันภัยธุรกิจหยุดชะงัก (BI) อีก 3.7 หมื่นล้านบาทหากรวมค่าเสียหาย ทั้งหมดจะอยู่ประมาณ 4.8 แสนล้านบาท หรือประมาณ 60 เท่าของค่าสินไหมทดแทน จำนวน 8 พันล้านบาทจากเหตุการณ์สึนามิ เมื่อปลายปี 2547
นายตนุภัทร กล่าวว่า ปัญหาในการ จ่ายค่าสินไหมทดแทน อาทิเครื่องจักรมีจำนวนมาก มีมูลค่าสูงเป็นเครื่องจักรที่มีเทคโนโลยีสูงต้องใช้ผู้เชี่ยวชาญพิเศษเฉพาะ, บางเครื่องตกรุ่น ไม่มีการผลิต การสั่งผลิตใหม่ต้องใช้เวลา, ทำประกันต่ำกว่า มูลค่าที่แท้จริง โดยคปภ.เร่งรัดการจ่ายค่า สินไหม เช่น กำหนดให้บริษัทประกันภัยต้องรายงานความเสียหายและการชดใช้ค่าสินไหมทดแทนที่ถูกต้องและเป็นปัจจุบัน ทุกๆ เดือน เดือนละ 2 ครั้ง จัดตั้งทีมงาน เพื่อติดตามเร่งรัดการชดใช้ค่าสินไหมทดแทน เป็นต้น
ที่มา www.spser.com
วันจันทร์ที่ 20 สิงหาคม พ.ศ. 2555
คปภ.มึนส่งเสริมฯพิมพ์กธ.7ล.ฉบับ ย้ำเคลมหลัง20ก.ค.ทำใจเบิกไม่ได้ | ||||
คปภ.ออกโรงแจงโรงพยาบาลป่วนเบิกค่าสินไหมพ.ร.บ.ฯ จากกรณีลูกค้าส่งเสริมประกันภัยมีไม่มาก ยันกระทบบ้างเพียงเล็กน้อยเท่านั้น | ||||
| ||||
อ้างอิง : นสพ.เส้นทางนักขาย ฉบับที่ 234 ปักษ์หลัง ประจำวันที่ 16-31 สิงหาคม 2555 |
วันพฤหัสบดีที่ 16 สิงหาคม พ.ศ. 2555
ห้ามดื่มแม้รถจอดในซอย
ตามที่ได้มีประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง การห้ามดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในทางสาธารณะ ขณะขับขี่หรือขณะโดยสารอยู่ในรถหรือบนรถทุกประเภท ซึ่งหมายรวมถึงท้ายรถด้วย อาศัยอำนาจ ตามพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) ควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ พ.ศ. 2551 โดยเริ่มมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 8 ส.ค. 2555 ที่ผ่านมานั้น พล.ต.ต.อุทัยวรรณ แก้วสอาด ผู้บังคับการตำรวจจราจร (ผบก.จร.) แจงถึงเรื่องนี้ว่า ในการบังคับใช้กฎหมายห้ามผู้โดยสารดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์บนรถ ช่วงแรกจะเน้นการประชาสัมพันธ์ และว่ากล่าวตักเตือน ให้ประชาชนทราบถึงเรื่องดังกล่าวว่าต่อไปนี้ถือเป็นความผิด ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 6 เดือน และปรับไม่เกิน 10,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ แต่การกวดขันผู้ขับขี่ที่เมาสุราจะยังเข้มข้นเหมือนเดิม หลังจากนี้อีก 1 เดือน จะเริ่มจับปรับตามกฎหมาย ทั้งนี้กฎหมายระบุชัดถึงการห้ามบริโภคบนรถทุกประเภทที่อยู่บนท้องถนนสาธารณะ ทางเท้า ไหล่ทาง รวมถึงซอยสาธารณะที่มีรถใช้มาก ยกเว้นรถไฟ รถราง หากพบว่ามีการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์บนรถถ้าว่ามีความผิด โดยจะเอาผิดเฉพาะคนดื่ม และเจ้าของรถ.
ทีมา http://spser.com/board/index.php?topic=316.0
ทีมา http://spser.com/board/index.php?topic=316.0
วันศุกร์ที่ 10 สิงหาคม พ.ศ. 2555
ไม่รับลูกค้า‘ส่งเสริมประกัน
หลัง “คปภ.” สั่งหยุดรับประกันชั่วคราว พร้อมส่งคณะกรรมการเข้าควบคุม “บ.ส่งเสริมประกันภัย” เริ่ม ส่อเค้าบานปลายแล้ว!! | ||||
| ||||
อ้างอิง : นสพ.เส้นทางนักขาย ฉบับที่ 233 ปักษ์แรก ประจำวันที่ 1-15 สิงหาคม 2555 | ||||
แก้กองทุนฯให้อำนาจบ.กลางจ่าย
บริษัทกลางคุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถจับมือคปภ. และสมาคมประกันวินาศภัยเอาใจประชาชน | ||||
| ||||
อ้างอิง : นสพ.เส้นทางนักขาย ฉบับที่ 233 ปักษ์แรก ประจำวันที่ 1-15 สิงหาคม 2555 |
สั่งให้บริษัท ส่งเสริมประกันภัย หยุดรับประกัน
คปภ. สั่งให้บริษัท ส่งเสริมประกันภัย หยุดรับประกันวินาศภัยเป็นก
ารชั่วคราว
สำนักงาน คณะกรรมการกำกับและส่งเสริม
การประกอบธุรกิจประกันภัย(ค
ปภ.) ตรวจพบว่า บริษัท ส่งเสริมประกันภัย มีการดำเนินการ ในลักษณะที่อาจเป็นเหตุให้เ
ภัยให้ถูกต้องตรงกัน มีการรับประกันภัยโดยไม่บัน
ทึกบัญชี หรือบันทึกบัญชีล่าช้า ประกอบกับไม่มีการตรวจสอบการลงบันทึกบัญชี และสมุดทะเบียนให้เป็นไปตาม
ข้อกำหนดของกฎหมาย มีการบันทึกบัญชีโดยใช้เกณฑ
นายทะเบียนด้วยความเห็นชอบข
องคณะกรรมการกำกับและส่งเสร
ิมการประกอบธุรกิจประกันภัย
ทั้งนี้ สำนักงาน คปภ. มีความห่วงใยประชาชน และผู้เอาประกันภัยเป็นอย่า
งยิ่ง เบื้องต้น จึงสั่งการให้บริษัทฯ แจ้งตัวแทน/
นายหน้าประกันภัยของบริษัทฯ ให้ระงับการขายกรมธรรม์ประก
ดังนั้น หากประชาชนและผู้เอาประกันภ
ัยรายใด พบเห็นการขายกรมธรรม์ประกัน
ภัยของบริษัทฯ ดังกล่าวในระยะนี้ ขอให้แจ้งกับสำนักงาน คปภ. ภาคและจังหวัดทั่วประเทศ หรือสอบถามข้อมูล ได้ที่ สำนักงาน คปภ. ส่วนกลาง โทร 0 2513 5214 , 0 2513 2972 หรือ สายด่วนประกันภัย 1186 หรือwww.oic.or.th
สอบถามข้อมูล ประกันภัยรถยนต์ราคาถูก
กวดขันผู้ขี่รถจักรยานยนต์
ขณะนี้กองบัญชาการตำรวจนครบ
าล (บช.น.) มีมาตรการเข้มงวดกวดขันผู้ข
ี่รถจักรยานยนต์ ที่ชอบฝ่าฝืนกฎจราจร ทั้งเรื่องขี่บนทางเท้า ขี่ย้อนศร ไม่สวมหมวกนิรภัยขณะขี่ โดยได้สั่งการให้ทุก สน.กวดขันจับกุมความผิดลักษ ณะนี้อย่างต่อเนื่อง เพราะเป็นเรื่องที่ก่อให้เก ิดอันตรายต่อผู้อื่นด้วย โดยหากพบผู้ขี่รถจักรยานยนต ์ทำผิดกฎจราจรตาม 3 เรื่องนี้ ให้ทำการจับปรับ 500 บาท ตาม พ.ร.บ.จราจรทางบก อย่างไรก็ตามข้อหาขับรถย้อน ศรข
ุรี ตำรวจจราจรที่นั่นได้พิจารณ
าข้อหาขับรถย้อนศรให้มีความ ผิดตามมาตรา 43 วรรค 8 ซึ่งเป็นมาตราเดียวกับข้อหา ขับรถขณะเมาสุรา เพราะเห็นว่าเป็นการกระทำที ่ประมาทอาจก่อให้เกิดอันตรา ยอย่างยิ่งต่อผู้อื่น ซึ่งผู้กระทำผิดจะมีโทษจำคุ กไม่เกิน 3 เดือน หรือปรับตั้งแต่ 2,000-10,000 บาท จะถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจส่งฟ้ องศาลอีกด้วย ทำให้ขณะนี้ที่จังหวัดชลบุร ีมีผู้ขี่รถจักรยานยนต์ย้อน ศรน้อยลงอย่างเห็นได้ชัด และเกิดอุบัติเหตุน้อยลง. ประกันภัยรถสิบล้อ
าล (บช.น.) มีมาตรการเข้มงวดกวดขันผู้ข
ี่รถจักรยานยนต์ ที่ชอบฝ่าฝืนกฎจราจร ทั้งเรื่องขี่บนทางเท้า ขี่ย้อนศร ไม่สวมหมวกนิรภัยขณะขี่ โดยได้สั่งการให้ทุก สน.กวดขันจับกุมความผิดลักษ
องพื้นที่กรุงเทพฯ ตำรวจจราจรพิจารณาความผิดจา
ก พ.ร.บ.จราจร ตามมาตรา 48 ทำให้มีโทษเบา ผู้ขี่อาจไม่หวาดกลัว เมื่อเทียบกับที่จังหวัดชลบุรี ตำรวจจราจรที่นั่นได้พิจารณ
าข้อหาขับรถย้อนศรให้มีความ
สมัครสมาชิก:
บทความ (Atom)