หน้าเว็บ

วันจันทร์ที่ 20 สิงหาคม พ.ศ. 2555

คปภ.มึนส่งเสริมฯพิมพ์กธ.7ล.ฉบับ ย้ำเคลมหลัง20ก.ค.ทำใจเบิกไม่ได้
คปภ.ออกโรงแจงโรงพยาบาลป่วนเบิกค่าสินไหมพ.ร.บ.ฯ จากกรณีลูกค้าส่งเสริมประกันภัยมีไม่มาก ยันกระทบบ้างเพียงเล็กน้อยเท่านั้น
  เพราะไม่ใช่ผู้เอาประกันภัยโดยตรงตามสิทธิกฎหมายให้อำนาจ เว้นเสียแต่ผู้เอาประกันภัยโดยตรงเท่านั้น ขณะที่อู่ซ่อมรถไร้ปัญหา เหตุ  ลูกค้าส่วนนี้แทบจะน้อยมาก  เพราะบริษัทไม่ได้ขยายตลาดทำประกันรถชั้นหนึ่ง ยอมรับผู้เอาประกันโดยตรงที่เคลมสินไหม พ.ร.บ.ฯ เกิดขึ้นหลังวันที่ 20 ก.ค.55 คงต้องทำใจ  อาจจะเคลมไม่ได้ช่วงนี้   เพราะกลัวเกิดกรณีข้อพิพาทแง่กฎหมาย ส่วน คปภ. ไล่จิกผู้บริหารหาคำตอบกรมธรรม์ที่สั่งพิมพ์กับโรงพิมพ์ถึง 7 ล้านฉบับ
นายอำนาจ วงศ์พินิจวโรดม ผู้ช่วยเลขาธิการ สายพัฒนาและวิเคราะห์ระบบการตรวจสอบ สำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบการธุรกิจประกันภัย (คปภ.) เปิดเผยถึงกรณีที่ผู้เอาประกันเกิดปัญหาเรียกร้อง   ค่าสินไหมจากบริษัทส่งเสริมประกันภัยที่ถูกทางคปภ.สั่งให้หยุดรับประกันภัยชั่วคราวในระหว่างนี้ว่า คงไม่ใช่ทั้งหมด    หากเป็นกรมธรรม์ที่มีผลบังคับก่อนและเกิดเคลมขึ้นก่อนที่ทางคปภ.สั่งหยุดรับประกันชั่วคราวคือวันที่ 20 ก.ค.55  และผู้เอาประกันเดินทางมาเคลมกับบริษัทกลางคุ้มครอง  ผู้ประสบภัยจากรถ   บริษัทกลางฯ สามารถจ่ายค่าสินไหมให้ได้  แต่หากเป็นเคลมสินไหมที่มาเคลมหลังวันที่ 20 ก.ค.55 

ตรงนี้คปภ.กลัวกันมากว่า เคลมตรงนี้ยังไม่เกิด ถ้าเกิดเหตุตอนนี้ก็อาจจะยังไม่สามารถเรียกร้องค่าสินไหมได้  เพราะถ้าหากคปภ.อนุมัติให้กับกรมธรรม์ที่ขายหลังวันที่ 20 ก.ค.ขึ้นมา  มันอาจจะมีประเด็นข้อกฎหมายเกิดขึ้นว่า คุ้มครองหรือไม่คุ้มครองตามมา  ในส่วนของอู่ซ่อมรถคงไม่เป็นปัญหา  เพราะน่าจะมีปัญหาเบิกจ่ายสินไหมอยู่บ้างเล็กน้อย  เนื่องจากส่วนใหญ่ส่งเสริมประกันภัยไม่ค่อยได้ขยายตลาดประกันรถยนต์ชั้นหนึ่งอยู่แล้ว   แต่หากเป็นกรมธรรม์พ.ร.บ.ผู้ประสบภัยจากรถ  และกรมธรรม์ประกันทางทะเลและขนส่งเสียส่วนใหญ่
                 
ในส่วนของโรงพยาบาลที่มีปัญหาเรียกร้องสินไหมไม่ได้ในขณะนี้  เนื่องจากคณะกรรมการควบคุมฯขอประเมินดูก่อนว่า มีปริมาณมากน้อยขนาดไหน  เพราะโรงพยาบาลถือว่า ไม่ใช่ผู้เอาประกันโดยตรง  จึงไม่อยู่ในเงื่อนไขจ่ายให้ได้  เช่นเดียวกับกรณีของบริษัทฟินิกส์ประกันภัยก่อนหน้านี้ที่ปิดกิจการไปแล้ว  ก็เคยถูกคำสั่งให้หยุดรับประกันชั่วคราว   ทางคณะกรรมการควบคุมฯของคปภ.ก็ไม่จ่ายอู่เลย  เพราะในหลักการไม่ถือว่า ผู้เอาประกัน  ส่วนโรงพยาบาลก็เหมือนกัน  เว้นเสียแต่ว่า ถ้าเป็นผู้เอาประกันสำรองจ่ายค่ารักษาไปก่อน   หรือกรณีใบเบิกแล้วมีส่วนต่าง อย่างนี้ทางคณะกรรมการควบคุมของคปภ.ถึงจะจ่ายสินไหมให้ได้   เพราะอย่างนี้มันชัดเจน   แต่พอโรงพยาบาลมาเป็นผู้เอาประกันภัยเรียกร้องค่าสินไหมเสียเอง  มันก็ยังพูดไม่ชัด  
                   
“ถ้าเป็นโรงพยาบาลอาจจะลำบากสักนิดหนึ่ง  แต่ส่วนใหญ่เวลาเกิดเหตุมักจะเคลมผ่านช่องทางกับบริษัทกลางฯ อยู่แล้ว  ซึ่งอาจจะขลุกขลักกรณีค่าเสียหายที่เกินกว่าค่าเสียหายเบื้องต้น 15,000 บาทเท่านั้น แต่ก็คงไม่เยอะ  เพราะเคลมพ.ร.บ.ฯใหญ่ๆมีไม่มาก ยิ่งรถทำประกันชั้นหนึ่งของส่งเสริมประกันภัยเขาไม่ค่อยมี  เพราะเป็นพ.ร.บ.ฯเกือบจะ  100%   จึงไม่มีปัญหากระทบกับพี่น้องประชาชนเวลานี้มากเท่าไหร่นัก”

                   
นายอำนาจ ยังกล่าวถึงความคืบหน้าในการเปิดให้ขายกรมธรรม์ได้ตามปกติว่า ขณะนี้ยังไม่สามารถกระทำได้  เพราะยังไม่สามารถแก้ไขให้มีระบบควบคุมการจำหน่าย จ่ายแจกกรมธรรม์ประกันภัยที่ครบถ้วนและรัดกุมอย่างดี    รวมทั้งระบบการลงบัญชีของกรมธรรม์ประกันภัย ที่จำหน่าย และเงินค่าเบี้ยประกัน ภัยให้ถูกต้องตรงกัน   หรือมีการรับประกันภัยโดย บันทึกบัญชี หรือบันทึกบัญชีได้ตามที่กฎหมายกำหนด  ประกอบกับยังไม่ได้แก้ไขในเรื่องของการตรวจสอบการลงบันทึก บัญชี และสมุดทะเบียนให้เป็นไปตามข้อกำหนดของกฎหมาย มีการบันทึกบัญชีโดย ใช้เกณฑ์เงินสด  ซึ่งหากทั้งหมดนี้ทางผู้บริหารมีการปรับปรุงแก้ไขแล้วทำให้ทางคณะกรรมการควบคุมฯของคปภ.พิจารณาดูแล้วว่า เป็นไปตามกฎหมายในทางปฎิบัติ  ทางคปภ.จึงจะอนุญาตให้เปิดดำเนินการขายกรมธรรม์ได้เป็นปกติ   
                     
“ประเด็นสำคัญเวลานี้  กรมธรรม์ที่ไปว่าจ้างโรงพิมพ์จันทร์วานิช ในช่วง 2 ปีที่ผ่านมาถึง 7 ล้านฉบับ ซึ่งเป็นตัวเลขผิดปกติ  ทั้งที่ปกติแล้วขายได้เพียงปีละล้านกว่าฉบับ   ตัวเลขที่พิมพ์เพิ่ม  ทางบริษัทยังหาคำตอบให้กับเราไม่ได้เลย  ซึ่งตรงนี้เขาจะต้องหาที่มาที่ไปให้กับทางคปภ.ให้ได้” นายอำนาจ กล่าวทิ้งท้าย 
อ้างอิง : นสพ.เส้นทางนักขาย ฉบับที่ 234 ปักษ์หลัง ประจำวันที่ 16-31 สิงหาคม 2555

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น